Kia Sportage 2022
อีกหนึ่งข่าวรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ที่ออกมาในปี 2022 ที่น่าสนใจนั้นก็คงจะหนีไม่พ้น แบรนด์รถยนต์สัญชาติเกาหลีอย่าง Kia นั่นเองค่ะ ที่ไม่ว่าจะผลิตรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ออกมากี่รุ่นก็ยังสามารถคงความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวได้อย่างสมบูรณ์แบบทีเดียวค่ะ โดยเน้นความเรียบหรูเป็นหลัก โดยล่าสุดปล่อยภาพโมเดลรถยนต์ SUV รุ่นใหม่อย่าง Kia Sportage 2022 ซึ่งในรุ่นนี้นั้น ถือเป็นเจเนอร์เรชั่นที่ 5 แล้วค่ะ
กลับมาครั้งนี้ เรียกได้ว่ากลับมาพร้อมกับรูปทรงและดีไซน์ที่เน้นความสปอร์ต หรูหรา มากขึ้นค่ะ ถือเป็นรถ SUV ที่ในขณะนี้นั้นได้รับความนิยมและได้รับการตอบรับที่ดีมากทั้งในยุโรปและสหรัฐอเมริกาค่ะ สำหรับในเจเนอร์เรชั่นที่ 5 นี้ คงต้องบอกว่าเป็นการปรับรูปโฉมครั้งใหญ่เลยทีเดียวค่ะ ซึ่งการปรับรูปโฉมในครั้งนี้สร้างอิมแพคให้กับบริษัทคู่แข่งพอสมควรเลยล่ะค่ะ วันนี้เราจะพามาเกาะติดรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ที่กำลังจะเปิดตัวในปี 2022 กันค่ะ กับ Kia Sportage 2022 ในส่วนของรายละเอียดเพิ่มเติมจะมีอะไรบ้างนั้น เราไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ
มาเริ่มกันที่ดีไซน์ภายนอกกันก่อนเลยค่ะ ความโดดเด่นและสะดุดตาของรุ่นนี้นั้น ก็คงจะหนีไม่พ้น กระจังหน้าที่มีขนาดใหญ่ ที่นอกจากจะสร้างความสะดุดตาให้กับผู้ที่พบเห็นแล้วนั้น ก็ยังเสริมภาพลักษณ์ความแข็งแรงให้กับรถอีกด้วยค่ะ อีกทั้งไฟหน้าแบบ LED ที่มาพร้อมกับไฟ Day Light รูปตัว C ที่ช่วยเพิ่มความโฉบเฉี่ยว ให้ลุคแบบสปอร์ต ต่อด้วยไฟท้ายเป็นแบบ LED ที่ยาวต่อกันผ่านฝาท้ายที่ช่วยเพิ่มความเป็นเอกลักษณ์ หรูหราและดูล้ำสมัยมากยิ่งขึ้น กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวในตัวก็ถือเป็นอีกหนึ่งจุดที่ช่วยทำให้ดีไซน์รถดูโดดเด่นขึ้นได้ค่ะ
มาต่อกันที่ภายในห้องโดยสารค่ะ เมื่อเข้ามาภายในตัวรถจะพบกับคอนโซลกลางและพวงมาลัย โดยบริเวณแผงหน้าปัดนั้น ถูกออกแบบออกมาให้มีลักษณะเป็นหน้าจอโค้งยาวขนาดใหญ่ เพื่อให้ใช้งานได้ง่ายและสะดวกสบาย อีกทั้งยังมีระบบปรับอากาศภายในห้องโดยสารแบบแยกโซนอีกด้วยค่ะ
ในส่วนของเครื่องยนต์และระบบต่าง ๆ ถึงแม้จะยังไม่มีการประกาศถึงรายละเอียดในส่วนนี้อยู่อย่างเป็นทางการนั้น ทั้งสเปคของเครื่องยนต์หรือในส่วนของแรงบิดเองก็ดี แต่จากการคาดการ์ณ คาดว่าจะมีให้เลือกกันทั้งระบบเครื่องยนต์แบบเบนซินและดีเซล ขนาด 1.6 ลิตร Turbo ที่ถูกนำมาใช้งานร่วมกันกับเทคโนโลยีอย่าง Hybrid และ Plug-In Hybrid ค่ะ
ซึ่งจะช่วยกันทำงานและสามารถส่งพลังได้รวมสูงสุดถึง 226 แรงม้า พร้อมด้วยแรงบิด 350 นิวตันเมตรเลยทีเดียวค่ะ โดยสามารถขับเคลื่อนด้วยการใช้พลังงานจากมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ไกลถึง 45 กม. ผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ด้วยระบบการขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ AWD โดยจากการทดลองใช้งานพบว่า หากใช้การขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าในรุ่น Hybrid นั้น
อาจจะยังไม่สามารถขับเคลื่อนได้ไกลมากนัก ในขณะที่รุ่น Plug-In Hybrid ช่วยประหยัดพลังงานเชื้อเพลิงได้มากกว่า อีกทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าด้วย เนื่องจากมีอัตราการปล่อยมลพิษที่เป็น 0 ในส่วนของระบบรักษาความปลอดภัยต่าง ๆ นั้น เรียกได้ว่าได้มีการนำเอาเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงที่เคยนำมาใช้งานกับรถยนต์ในรุ่นก่อนหน้ามาใช้ด้วย
ทั้งระบบกันสะเทือนที่สามารถกำหนดค่าได้ ระบบขับขี่กึ่งอัตโนมัติที่ เป็นต้น โดยจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงเดือนกรกฎาคม 2564 นี้ โดยเริ่มเปิดตัวจากทวีปยุโรปและสหรัฐอเมริกาก่อน ในส่วนของราคายังไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการ แต่หากอิงราคารุ่นก่อนหน้าคาดว่าอาจจะมีราคาอยู่ในช่วงราคาประมาณ £30,000 หรือตีเป็นเงินไทยราว ๆ 1,400,000 ++ บาทค่ะ (ราคาต้องรอประกาศอย่างเป็นทางการ)