น้ำมันเครื่องยนต์ หัวใจหลักของขุมพลัง
คุณรู้หรือไม่ ว่าน้ำมันเครื่องสำคัญกับรถยนต์ของคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถเก๋งสุดรักที่ขับใช้ในเมืองใหญ่ การจราจรที่หนาแน่น ผลกระทบคือเครื่องยนต์เดินรอบเดียวนิ่งๆอยู่นาน ทำให้การไหลเวียนในระบบเผาไหม้วนซ้ำอยู่แบบนั้น ทำให้การกำจัดไอเสียทำได้ไม่ดีเท่าที่ควรจะเป็น เขม่าและเศษโลหะต่างๆ เกิดอาการอุดตันและเป็นคราบตะกรันเลนเหลวเกาะติดตามชิ้นส่วนต่างๆในเครื่องยนต์ ทำให้พลังของเครื่องยนต์น้อยลง

น้ำมันเครื่องมีความสำคัญต่อสุขภาพรถของคุณ ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนถ่ายตามระยะที่ช่างเขียนบอกวันเดือนปี หรือตัวเลข บนบัตรห้อยคอพวงมาลัย นี่เหมือนหน้าที่หลักของคนขับรถทุกคนครับ เหมือนใบนัดที่คุณหมอออกให้เรา พูดไปแล้วมันก็เหมือนๆกัน หากคุณเลยเวลานัดบ่อยๆ สุขภาพของคุณอาจจะแย่ลงไปเรื่อยๆ สุดท้ายคุณก็จะต้องเข้าสู่ห้องผ่าตัดเพื่อแก้ไขปัญหา เครื่องยนต์รถเก๋งคันโปรดของคุณก็เหมือนกัน หากดูแลน้ำมันเครื่อง และของเหลวอื่นๆ สม่ำเสมอ เปลี่ยนถ่ายในระยะที่คู่มือติดรถ หรือช่างแนะนำ อายุการใช้งานก็จะยาวนาน ไม่ต้องเข้าอู่สิ้นเปลืองเงินในกระเป๋าบ่อยๆ

วิธีตรวจสอบง่ายๆครับ เปิดฝากระโปรงขึ้นมาค้ำไว้ให้มั่นคง ใกล้ๆเครื่องยนต์จะมีห่วงกลมๆ สำหรับดึงก้านวัดน้ำมันขึ้น ดึงขึ้นมาครั้งแรก “ตรวจสอบสภาพสีของน้ำมันเครื่อง” (ภาพด้านขวา) หาผ้าที่ไม่มีขน หรือผ้าดิบ ผ้ายืด เพื่อไม่ให้เศษผ้าอาจติดลงไปปะปนกับน้ำมันในห้องเครื่องได้ นำผ้ารองรับปลายก้านวัดยกขึ้นมาเพื่อดูสภาพสี แล้วเช็ดรูดน้ำมันออก (อาจจะเตรียมไว้โดยเฉพาะ) เมื่อปลายก้านวัดแห้งสนิท
และสะอาด ปราศจากน้ำมันที่ติดขึ้นมาในรอบแรกแล้ว ให้ส่งกลับไปในตำแหน่งเดิม ดันให้สุดก้าน แล้วดึงออกมาอีกครั้ง คราวนี้เราจะวัดระดับน้ำมันว่าอยู่ในช่วงใด ตำแหน่ง F คือปริมาณน้ำมันยังเป็นปกติแต่ถ้าสีดำเข้มมีเศษฝุ่นดำๆ ก็ควรเปลี่ยนถ่ายเช่นกันครับ อีกตำแหน่งที่สำคัญคือ ตำแหน่ง L คือระดับน้ำมันเครื่องใกล้หมด และควรรีบเปลี่ยนถ่าย หรือถ้าไม่มีเวลาให้เติมลงไป 1 ลิตร เพื่อนำน้ำมันเครื่องใหม่ลงไปผสมให้สะอาดขึ้น และเพิ่มปริมาณ
ขับรถเก๋งก็ต้องดูแลรถเก่งด้วยนะ การนำเข้าศูนย์ตรวจสภาพตามรอบระยะทางที่เราใช้งาน จะทำให้สมรรถนะของเครื่องยนต์สูบฉีดเต็มกำลัง ยิ่งถ้าคุณเลือกสรรเกรดน้ำมันเครื่องตรงตามคู่มือที่ผู้ผลิตแนะนำ และได้รับการรับรองคุณภาพตามมาตรฐานสากล หัวใจของเครื่องยนต์จะเต้นเป็นจังหวะและราบรื่นแน่นอนครับ