โครงการ ChargeNow ได้ BMW จับมือเป็นพันธมิตร ร่วมกันเพิ่มเครือข่ายจุดชาร์จไฟฟ้าในกรุงเทพฯ
โครงการ ChargeNow เป็นโครงการที่จะติดตั้งจุดชาร์จไฟฟ้าให้กับรถยนต์ที่ใช้ระบบไฟฟ้าเป็นการขับเคลื่อนเครื่องยนต์ไปทั่วทั้งกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นจุดชาร์จไฟฟ้าสาธารณะไม่ว่าใครก็สามารถเข้ามาใช้งานได้ โดยล่าสุดนี้ได้พันธมิตรใหม่เป็นบริษัท BMW Group ประเทศไทยที่เข้ามาร่วมมือในการติดตั้งจุดชาร์จเหล่านี้ ไม่เพียงเท่านั้นจุดชาร์จเหล่านี้ยังให้บริการอัดประจุไฟฟ้าฟรีในระยะเวลาที่กำหนดอีกด้วย โดยจะจัดตั้งไว้ในบริเวณที่มีผู้คนใช้งานเป็นจำนวนมากเพิ่มเติมมากกว่า 12 จุด โดยทาง BMW ได้ออกมาแถลงการณ์ว่าบริษัทนั้นได้มีการผลิตและพัฒนารถยนต์ไฟฟ้ามาอย่างยาวนานและเป็นผู้บุกเบิกในการประกอบรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งมีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมไม่ทำให้เกิดมลภาวะทางอากาศนอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีต่างๆ มาช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ขับขี่ได้มากขึ้นอีกด้วย ดังนั้นพวกเขาจึงให้การสนับสนุนการติดตั้งจุดชาร์จไฟฟ้าเพิ่มในกรุงเทพฯ เพื่อให้ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้านั้นสามารถเข้ามาใช้งานได้ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์รุ่นใดแบรนด์ใดก็ตาม การที่ทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงจุดชาร์จได้ง่ายมากขึ้นนั้นจะส่งผลสำคัญในการส่งเสริมและการผลักดันให้ประชาชนในประเทศไทยหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น และด้วยความที่รถยนต์ไฟฟ้านั้นกำลังเป็นที่สนใจและแรงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆการสนับสนุนดังกล่าวนี้จึงจะส่งผลให้ผู้คนหันมาเปิดใจใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้น
โดยโครงการ ChargeNow นั้นนอกจากจะมีจุดประสงค์ในการผลักดันและสนับสนุนให้ประชาชนชาวไทยหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้นโดยการอำนวยความสะดวกติดตั้งจุดชาร์จไฟฟ้าตามสถานที่ต่างๆ เพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะรอบกรุงเทพมหานครแล้ว ยังมีการร่วมกับบริษัท BMW Group ประเทศไทยรวมไปถึงบริษัทพันธมิตรบริษัทอื่นๆ อีกมากมาย เพื่อให้ประเทศไทยมีความพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงไปใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้นและมีความยั่งยืน โดยในปัจจุบันนี้มีการติดตั้งจุดชาร์จไฟฟ้าไปแล้วกว่า 141 หัวจ่ายรวมทั้งสิ้น 63 สถานีกระจายไปยังพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศไทย ไม่เพียงแต่ในกรุงเทพฯ เท่านั้น ดังนั้นแม้ว่าผู้ใช้งานจะอยู่ต่างจังหวัดก็สามารถใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าได้อย่างไร้กังวล จากทั้งหมด 141 หัวจ่ายประกอบไปด้วยหัวจ่ายสาธารณะถึง 91 หัวจ่าย และอีก 50 หัวจ่ายนั้นเป็นหัวจ่ายอย่างทางการของ BMW โดยโครงการวางแผนไว้ว่าจะมีการเพิ่มและขยายการติดตั้งจุดชาร์จไฟฟ้าให้ครบ 100 จุดให้ได้ภายในสิ้นปีนี้ หากโครงการสามารถดำเนินงานไปได้ตามแผนที่วางไว้ก็จะช่วยให้ประชาชนชาวไทยที่เลือกใช้รถยนต์ไฟฟ้ามีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ยังเป็นการจูงใจให้คนอื่นๆ ที่ยังไม่ได้ตัดสินใจจะซื้อรถไฟฟ้าสามารถตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้นอีกด้วย