Chevrolet Bolt EUV

Chevrolet Bolt EUV 2022

Chevrolet Bolt EUV 2022

อีกหนึ่งความเปลี่ยนแปลงที่คาดการณ์ว่ากำลังจะเกิดขึ้นในวงการอุตสาหกรรมรถยนต์นั้น ก็คือรถยนต์ไฟฟ้านั่นเองค่ะ เราอาจจะเคยเห็นข่าวเกี่ยวกับรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ที่นำพลังงานไฟฟ้ามาใช้ในการขับเคลื่อนกันบ้างแล้ว รวมถึงได้มีการนำมาทดลองใช้จริงแล้วในบางประเทศเช่นกัน  ถ้าจะพูดถึงแบรนด์รถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ที่ใช้พลังไฟฟ้าหลาย ๆ ท่านก็คงจะนึกถึงแบรนด์อย่าง Tesla กันใช่ไหมล่ะคะ

แต่ล่าสุดได้มีข่าวอัพเดทเกี่ยวกับรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ปี 2022 ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อน จากอีกหนึ่งแบรนด์ที่เราคุ้นเคยกันมาอย่างยาวนาน ซึ่งก็คือแบรนด์ชื่อดังสัญชาติอเมริกันอย่าง Chevrolet นั่นเองค่ะ โดยทางผู้ผลิตได้มีการนำเสนอโมเดลใหม่อย่าง 2022 Chevrolet Bolt ออกมาค่ะ ซึ่งเรียกได้ว่าสร้างเสียงฮือฮาได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

ในส่วนของ 2022 Chevrolet Bolt EUV นั้น ได้มีการปรับโครงสร้างของตัวรถภายนอกเล็กน้อย โดยเพิ่มความยาวของตัวรถให้มากกว่าเดิมถึง 6.3 นิ้ว ซึ่งส่งผลให้ระยะฐานล้อยาวขึ้นกว่าเดิม 2.9 นิ้ว เมื่อโครงสร้างภายนอกขยายขึ้นกว่าเดิม ก็ส่งผลให้ภายในห้องโดยสารนั้นมีขนาดใหญ่ขึ้นตามไปด้วย โดยเฉพาะในส่วนของที่วางขาที่นั่งด้านหลัง

ที่มีพื้นเพิ่มขึ้นมาถึง 39.1 นิ้วเลยทีเดียวค่ะ ด้วยพื้นที่กว้างขวางนี้ ส่งผลให้ผู้โดยสารด้านหลังสามารถยืดขาและนั่งได้สบายมากขึ้นค่ะ นอกจากความสะดวกสบายที่ได้เพิ่มมากขึ้นแล้วนั้น ก็ยังมีในส่วนของแบตเตอรี่ ที่ใช้เป็นแบบลิเธียมไอออน 65 kWh ซึ่งจะช่วยส่งพลังงานไปยังมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 200 แรงม้า (HP) ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ด้วยขนาดที่ขยายเพิ่มมากขึ้นส่งผลให้น้ำหนักของตัวรถนั้นเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

โดยมีน้ำหนักมากถึงประมาณ 3,679 ปอนด์ หรือ 1.66 ตัน เลยทีเดียวค่ะ ในจุดนี้อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของระยะทางในการขับเคลื่อนได้เล็กน้อย เนื่องจากอาจเดินทางได้แค่เพียง 250 ไมล์ หรือประมาณ 402 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ด้วยเหตุนี้ผู้ผลิตจึงได้ใส่ฟีเจอร์อย่าง Dual Level Charge Cord ลงไปเป็นอุปกรณ์ขั้นพื้นฐานเพื่อทดแทนในส่วนนี้ค่ะ สายไฟสามารถรองรับเต้ารับ 120-volt และ 240-volt ได้ โดยอาจใช้เวลาเฉลี่ยประมาณ 7 ชั่วโมง

ต่อการชาร์จแบตเตอรี่จาก 0% ถึง 100% โดยแบตเตอรี่ยังสามารถรองรับระบบ DC Fast Charging ที่สามารถช่วยเพิ่มระยะการขับเคลื่อนได้อีก 95 ไมล์ หรือราว ๆ 152.8 กิโลเมตร ด้วยการชาร์จไฟเพียง 30 นาทีเท่านั้นค่ะ แหม ถือว่าช่วยประหยัดเวลาได้ดีทีเดียวนะคะ มาต่อกันที่ระบบต่าง ๆ ของรถกันบ้างค่ะ อย่างเช่นความสามารถในการรองรับระบบ Apple CarPlay แบบไร้สายและ Android Auto

โดยจะใช้สั่งการผ่านหน้าจอ Infotainment System แบบสัมผัส ที่มีขนาดที่ง่ายต่อการใช้งานอยู่ที่ 10.2 นิ้วค่ะ อีกทั้งยังมีแท่นชาร์จแบบไร้สาย หรือระบบในด้านความปลอดภัยต่าง ๆ อย่างเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ และการแจ้งเตือนการขับรถออกนอกเลน ยังไม่หมดเพียงเท่านั้นนะคะ เพราะยังมีกล้องมองภาพแบบ 360 องศา ระบบควบคุมความเร็วและ Super Cruise ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดีอีกด้วยค่ะ โดยมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 33,995 ดอลลาร์ หรือราว ๆ 1,014,836 บาทค่ะ

 

 

 


ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *