HUSQVARNA 701 Supermoto สายซิ่งทางฝุ่น พันธุ์โหด
สายซิ่งทางฝุ่นคงรู้จักรถค่ายนี้เป็นอย่างดี โดยในปี 2020 ได้ออกรุ่น “HUSQVARNA 701 Supermoto” ม้าศึกขั้นยอดที่มีการปรับในส่วนของรายละเอียดต่าง ๆ ทั้งภายใน และภายนอกให้มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น
ทางด้านเทคโนโลยีความปลอดภัยต่าง ๆ ก็ใส่มาครบครัน อาทิ
- ระบบป้องกันการลื่นไถล MTC (Motorcycle Traction Control) ซึ่งจะทำงานร่วมกับระบบ Lean-angle-sensitive system ตรวจจับองศา การเอียงของตัวรถโดยผ่านกล่อง IMU-powered traction control ที่จะคอยควบคุม – ประมวลผลการเคลื่อนไหวของรถ สั่งงาน Traction Control กับ ABS เพื่อป้องกันล้อหมุนฟรี
- ระบบ Cornering ABS หรือ C-ABS ที่ช่วยกระจายแรงเบรกทั้งล้อหน้า-ล้อหลัง และสามารถเปิด/ปิด การทำงานของระบบ ABS ได้
- ระบบ Easy Shift Function ฟังก์ชั่นสำหรับการเลื่อนขึ้นลงมีรถลงของเกียร์ที่ว่างและเบาแรง
- ระบบเบรค ABS แบบ 2 Channel มีโหมดการขับขี่แบบ Supermoto ที่สามารถเลือกปิด ABS ที่ล้อหลังได้ และสามารถเลือกรูปแบบการขับขี่ได้ 2 แบบ คือ Street และ Sport ซึ่งแต่ละแบบจะมีอัตรากำลังของเครื่องยนต์ที่แตกต่างกันและทำงานควบคู่กับระบบ Traction Control ได้อย่างแม่นยำและสมบูรณ์แบบ
- ระบบคันเร่งแบบไฟฟ้า (Ride by Wire) โดยคันเร่งไฟฟ้าจะช่วยให้การขับขี่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากการบิดคันเร่งได้ส่งข้อมูลไปที่สมองควบคุม ECU และระบบจะไปสั่งการลิ้นปีกผีเสื้อโดยตรง ทำให้เครื่องยนต์มีประสิทธิภาพสูงสุดในการเผาไหม้
สำหรับรูปลักษณ์ภายนอกยังคงเหมือนรุ่น 701 Enduro แต่มีการปรับในส่วนของสีสันของตัวรถและสีของโคลงสร้าง ที่เป็นสีดำ ชิ้นงานบอดี้พาร์ททั้งหมดมี 18 ชิ้น อาทิ การ์ดบัง โช้คอัพหน้าซ้าย/ขวา, บังโคลนหน้า, หน้ากากพร้อมไฟหน้า, การ์ดแฮนด์ซ้าย/ขวา, การ์ดรังผึ้งซ้าย/ขวา, แฟริ่งด้านข้างซ้าย/ขวา, ถังนํ้ามันเชื้อเพลิงด้านหลัง, เบาะนั่งแถวยาว, แป้นเบอร์ด้านหลังซ้าย/ขวา, บังโคลนหลังพร้อมชุดไฟท้าย, การ์ดบังสเดอร์หน้า, ตัวดันโซ่และ การ์ดบังโซ่พร้อมด้วยลวดลายกราฟฟิคแบบใหม่ที่บางและแนบสนิทกับชุดบอดี้รถ ชุดไฟท้ายและไฟเลี้ยวเป็นแบบ LED และกระจกมองหลังทรงกลม ระบบโครงสร้างเฟรมเป็นแบบ Chromium-molybdenum steel trellis frame ทำมาจากท่อเหล็กทรงกลมเชื่อมต่อเข้าด้วยกันเป็นโครงตาข่าย ที่ให้ความแข็งแกร่งทนทานและมีน้ำหนักที่เบาไม่เป็นสนิม อีกทั้งทนต่อแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี ส่วนรับเฟรมด้านท้ายใส่วัสดุอย่าง Polyamide ที่มีความเหนียวและเบาเพียง 5.2 กิโลกรัม พร้อมถังน้ำมันอีก 13 ลิตร และแบตเตอรี่แบบ Li-ion 2.0 Ah ที่มีน้ำหนักเบา