NISSAN RETRO ตระกูลไพค์ เล็กกะทัดรัด
วันนี้เรามาจัดเต็มจัดหนักไปกับรถเก่ารถคลาสสิก NISSAN RETRO ของตระกูลนิสสิน ระหว่างปี 1985-1989 ตำนานของการฟื้นคืนชีพจากมวยที่ถูกน็อกแบบทั้งล้มทั้งยืนในตลาดรถยนต์ในยุค 80 รถสี่พี่น้องนี้ช่วยดึงให้ค่าย Nissan ลุกขึ้นได้ในวินาทีสุดท้ายเพื่อยืนหยัดสู้ต่อไป แต่ด้วยวิกฤตที่เกิดขึ้นกับนิสสินที่ถูกประชาชนต่างบูลลี่รูปทรงของรถยนต์ที่อนุรักษ์นิยมที่ดูเชยๆ เมื่อสู้ตลาดตอนนั้นไม่ได้ นิสสันจึงพลิกแนวคิดแบบขั้วกลับ ด้วยการออกแบบให้รถยนต์ขนาดกะทัดรัดสี่พี่น้องไพค์เป็นรถที่สะท้อนความเป็นเอกลักษณ์เหมือนเสื้อผ้ารองเท้าที่สามารถย้อนยุคนำกลับมานิยมได้อีกครั้ง และก็สะท้อนไปถึงอนาคตได้เช่นกัน เพราะอีกหลายปีข้างหน้า พี่น้องตระกูลไพค์ก็จะกลายเป็น ที่ถูกนำพาไปเรื่อยๆ โดยนักสะสมรถเล็กคลาสสิกโบราณ
ที่มาของ ไพค์ รถเก่ารถคลาสสิก ก็คือโรงงานที่ถูกสร้างขึ้นใหม่ ซึ่งมีความหมายว่า หอก ที่แหวกแนวความคิดสู่สิ่งใหม่ๆ และด้วยการผลิตที่มีจำนวนจำกัดตามประกาศของนิสสันส่งให้ยอดจองรถหมดสต็อกก่อนวางขายในท้องตลาดซะอีก เรียกว่า ทำเสร็จส่งต่อคันกันเลย
รุ่นแรก Be1 เปิดตัวในงานโตเกียวมอเตอร์โชว์ปี 1985 สร้างความตื่นตระหนกให้กับบรรดาผู้บริโภคอย่างไม่น่าจะเกิดขึ้น ด้วยรูปทรงโค้งมน ตาไฟกลมโต ตัวถัง เล็ก น่ารัก รวมทั้งการออกแบบสีของตัวถังที่พาอารมณ์ของผู้ซื้อเข้าถึงความเป็นคลาสสิก รุ่นนิ้นิสสันผลิตแค่ 10,000 คันเท่านั้น
Nissan Pao 1990 รุ่นแรกของโรงงานไพค์ ด้วยผลตอบรับที่ดีของ รุ่นแรก จึงทำให้แตกแขนงการออกแบบมาต่อมาเป็นรุ่น Pao ในสไตล์ผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัยในแบบย้อนยุค เป็นตัวถังแบบ 2 ประตู+1 ประตูหลังเพื่อเก็บสัมภาระ หลังคาผ้าแคนวาสที่สามารถเปิดรับลมได้ ภายในบรรจุได้ 4-5 ที่นั่ง รุ่น Pao ผลิตจำกัดที่ 50000 คันเท่านั้น โดยเปิดให้จองและขายหมดเพียง 3 เดือน หนำซ้ำยอดยังทะลุไปถึงกว่า 51000 คัน
รุ่นที่ 3 NISSAN FIGARO ออกร่วมรุ่นกับ Pao ได้รับแรงบันดาลใจจากรถ DATSAN ROADSTER ปี 1935 เป็นการออกแบบสไตล์ยุโรป เบาะหนัง เปิดประทุน เครื่องเล่น Figaro รุ่นนี้ผลิตออกมา 20,000 คัน หมดในเวลาอันรวดเร็วก่อนคันแรกจะสู่ท้องถนน
รุ่นที่ 4 NISSAN S CARGO หรือรุ่น หอยทาก ดีไซน์สะดุดตา เชิงพาณิชย์ สู่ตลาดในปี 1989 รูปแบบหลังคาโดมสูง 48 นิ้ว พร้อมถาดซูชิที่สามารถถอดเข้าออกได้ หลังคาประทุน หน้าปัดแหงนรับมองง่าย และพรมปูพื้นธีมหอยทาก ถึงรุ่นนี้จะได้รับความนิยมน้อยลง แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ยากถ้าคุณอยากจะเห็นมันอีกครั้งบนถนน