TESLA ROADSTER 2022

TESLA ROADSTER 2022 รถเก๋ง โรสเตอร์ขุมพลังรักษ์โลก

TESLA ROADSTER 2022 รถเก๋ง โรสเตอร์ขุมพลังรักษ์โลก  

 TESLA ROADSTER 2022 เจเนอเรชั่น 2 ย้อนไปในปี 2017 Elon Musk ประกาศว่า จะนำรถรุ่นแรงกลับมาผลิตอีกครั้งโดยเคยเป็นรถที่สร้างชื่อให้กับบริษัท โดยจะใส่ทุกเทคโนโลยีสูงสุดที่ทาง TESLA มีอัดแน่นลงไป

ภารกิจสำคัญที่อาวุธยานยนต์ของ TESLA ลำนี้ต้องการ ก็คือ ซัดรถเก๋งที่ใช้น้ำมันให้นอนฟันร่วงตาค้างข้างทางกันไปเลย ด้วยสภาวะหลายอย่างของโลก ตั้งแต่ปี 20 ทำให้ Tesla เลื่อนการส่งมอบออกไปอีก โดยล่าสุดได้ข่าวว่าจะเริ่มผลิตและส่งมอบในปี 2022 นี้ ถึงแม้ตอนนี้จะมีแค่ภาพ หรือโมเดลให้ดูเท่านั้น แต่ผู้เขียนจะพาไปรู้จักเพชรฆาตรักษ์โลกลำนี้ให้พอเป็นน้ำจิ้ม

นักล่าม้าไฟลำนี้ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มของ Super Car หรือ Hyper Car แถมยังเร็วกว่าอีกนะ จัดหนักอลังการของยานยนต์แห่งอนาคต เตรียมพับกบ เอ่ย!! พบกับ รถเก๋ง Roadster ในปี 22 นี้ คู่แข่งทางเรียบความเร็วโลกต้องยอมแพ้ ทำความเร็ว 0-100 กม/ชม ใช้เวลาเพียง 1.9 วินาที ถือว่าเป็นรถรุ่นเดียวที่ทำเวลาต่ำกว่าหลัก 2 วิ ทำลายสถิติ Bugatti Chiron ที่ทำได้ ใน 2.4 วินาที

เทคโนโลยีสุดล้ำของค่าย ที่จะสร้างความเหนือให้ม้าไฟคันนี้ คือ SpaceX Package ยังเป็นที่ครหากันอยู่ว่าเกินจริง แต่ผู้ใช้ทวิสเตอร์รายนึงก็โพสต์แผ่นป้ายในพิพิธภัณฑ์แห่งหนึ่ง ที่อธิบายรายละเอียดของม้าไฟตัวนี้ และแพ็คเก็จ SpaceX ที่มีอยู่จริง เหมือนที่ Elon Musk ได้กล่าวไว้ SpaceX เป็นไอพ่นขนาดเล็ก ติดตั้งในตำแหน่งที่ใกล้กับป้ายทะเบียน สามารถเพิ่มพลังขับเคลื่อนได้ จาก 1.9 วินาที เหลือเพียง 1.1 วินาที  แบบเดียวกับจรวดไอพ่น

รถเก๋งม้าไฟทางเรียบเปิดประทุนคันนี้จำกัดที่นั่งแค่ 2 ท่านเท่านั้นตามแบบฉบับ Roadster สมรรถนะที่พุ่งทะยานด้วยพลังไฟฟ้า 100% มอเตอร์ 3 ตัว ด้านหน้า และล้อหลังสองข้าง ส่งกำลังด้วยแบตเตอรี่ 200 กิโลวัตต์ ระยะทางที่ทำได้ 997 กิโลเมตร

ภายหลัง Elon Musk ออกมาประกาศแก้ไขระยะทางที่ทำได้มากกว่า 1000 กิโลเมตร ถึงแม้ต้องรอดูระยะทางที่แท้จริง อย่างไรแล้วม้าไฟคันนี้ก็ขึ้นแท่นเบอร์ 1 ของรถพลังงานไฟฟ้าที่สามารถทำระยะทางได้มากที่สุดในโลกอยู่ดี

แม้จะมีสถานบริการไฟฟ้าราวๆ 30 แห่งในประเทศไทย แต่ดูเหมือนกระแสแห่งความแรงจะมีมากกว่าความกังวลนี้ ม้าไฟที่หลับใหลรอเวลากลับมาเผยตัวอีกครั้ง และควบซัดทุกอย่างที่ขวางหน้า ปิดตำนานน้ำมันเชื้อเพลิงให้โลกกลับมาเป็นสีเขียวได้อย่างที่ตั้งเป้าไว้หรือไม่ อีกไม่ถึงปี เราก็จะได้ทราบความจริงกัน

 


ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *