W212 เมอร์ซิเดสเบนซ์
เจนเนอเรชั่นที่สี่ซึ่งเปิดตัวในปี 2009 เป็นรุ่นปี 2010 นับเป็นครั้งแรกที่ E-Class มีจำหน่ายในรูปแบบสเตชั่นแวกอน (ชื่อรหัสว่า S212) ในสหรัฐอเมริกา ปี 2013 ออกรุ่นไมเนอร์เชนจ์กลางอายุตลาดสำหรับ E-Class ซึ่งครอบคลุมการเปลี่ยนแปลง ทั้งอุปกรณ์ และทางเทคนิค
ได้รับการออกแบบใหม่โดยไม่มีไฟหน้าแบบ “สี่ตา” มีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพิ่มเติม ซึ่งรวมถึงกล้องรอบทิศทางที่มีประโยชน์ ช่วยให้เห็นมุมมองมุมสูงของรถและสภาพแวดล้อมบนหน้าจอแดชบอร์ด ตลอดจนฟังก์ชันการจอดรถแบบแอ็คทีฟ ที่รถสามารถควบคุมพวงมาลัยและเบรก ทำให้เคลื่อนตัวเองเข้าไปในซองที่จอดหรือพื้นที่จอดแบบคู่ขนานได้
Mercedes ให้ทางเลือกเครื่องยนต์ที่กว้างมาก มีตั้งแต่เครื่องยนต์ดีเซล 168bhp ไปจนถึงเครื่องยนต์เบนซิน V8 เทอร์โบชาร์จเจอร์ใน E63 AMG S ที่มี 577bhp แต่โดยรวมแล้วมีเครื่องดีเซลสี่สูบอยู่ 2 ความจุ นอกจากนั้นยังมีเครื่อง V6 และไฮบริดดีเซล ผู้ซื้อสามารถเลือกรุ่นเครื่องยนต์ 2 ลิตร 4 สูบได้ 2 รุ่น หรือเครื่อง V8 ใน E63 AMG หรือรุ่นปรับแต่งสูงสุดใน E63 AMG S
หากต้องการความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงต่ำ คุณอาจต้องมองหา E 250 BlueTec 195 แรงม้า หรือกับเครื่องดีเซลสี่สูบขนาด 2.1 ลิตรเทอร์โบ, ส่วนรุ่นน้ำมันเบนซินระดับแรงขึ้นมาหน่อยคือ 302 แรงม้ากับ E 350 พร้อมเครื่องยนต์ V6 3.5 ลิตร ให้ความสมดุลที่ดีระหว่างประสิทธิภาพและความประหยัด อย่างไรก็ตามถ้าต้องการพลังของเครื่องที่มากขึ้น Mercedes-Benz ก็เสนอเครื่องยนต์ E 400 ขนาด 329 แรงม้าพร้อมเครื่องยนต์ biturbo V6 ขนาด 3.0 ลิตร ที่สร้างมาเพื่อทดแทน E 550 V8 และหากประสิทธิภาพคือสิ่งเดียวที่ใส่ใจ ความเร็วสูง 577 แรงม้า E 63 S พร้อมเครื่องยนต์ biturbo V8 ขนาด 5.5 ลิตรคือตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างมาก
Mercedes-Benz W212 E-Class ได้นำความรู้สึกเหมือนห้องนิรภัยที่ลูกค้าต้องการกลับมาอีกครั้งตั้งแต่ W124 ออกจากสังเวียนนี้ไปในช่วงกลางปี 1990 การประกอบและวัสดุมีคุณภาพสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่อยู่ในสายตาคนขับ การตกแต่งด้วยโลหะจริงและตัวเลือกแผ่นไม้อัดหลายแบบ รวมถึงนาฬิกาอนาล็อก ช่วยเพิ่มระดับให้กับห้องโดยสารได้ดีเยี่ยม