YAMAHA FJR 1300 ES 2019 หรูหรา ดุดัน สไตล์สปอร์ตทัวร์ริ่งรุ่นใหญ่
YAMAHA FJR 1300 ES ยังคงเป็นรถสปอร์ตทัวริ่งที่ได้รับการชื่นชมจากนักขับขี่ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยว ถึงแม้รูปลักษณ์ภายนอกจะไม่ค่อยมีการปรับเปลี่ยนมากนัก แต่มันยังคงความเรียบหรู มีสไตล์ระดับ Luxury ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมพร้อมเทคโนโลยีที่ทันสมัย ด้านหน้าโดดเด่นด้วยชุดแฟริ่งขนาดใหญ่ที่ให้ความดุดันและโฉบเฉี่ยว ไฟหน้าแบบใหม่แยกเป็น 2 ฝั่ง เป็นแบบ LED ดีไซน์สวย พร้อมด้วยไฟ DRL (Daytime Running Light) พร้อมด้วยระบบไฟ Adaptive Cornering Lights ซึ่งเป็นระบบไฟส่องสว่างด้านหน้าที่ สามารถปรับเพิ่มมุมองศาซ้าย-ขวา ตามการเลี้ยวของรถได้อย่างอัตโนมัติ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่มากยิ่งขึ้น
มาตรวัดหน้าปัดเรือนไมล์ เป็นหน้าจอดิจิตอลผสมอนาล็อค เบาะนั่ง 2 ชั้นแบบแยกสามารถปรับระดับความสูง/ต่ำได้ ด้านท้ายเสริมเหล็กสำหรับติดตั้งกระเป๋าท้าย ด้านข้างติดตั้งกระเป๋าสัมภาระสำหรับเดินทางมาให้ 2 ใบ ท่อไอเสีย 2 ใบขนาบข้าง พร้อมเสริมความปลอดภัยด้วยกุญแจนิรภัย Immobilizer โครงสร้างของตัวรถเป็นแบบ Diamond Frame ที่สร้างจากอลูมิเนียม จะเน้นความแข็งแรงกะทัดรัด คล่องตัวนํ้าหนักเบาและจุดศูนย์ถ่วงของตัวรถที่ต่ำ ผลที่ได้คือการควบคุมที่ง่าย คล่องแคล่วในยามขับขี่
ระบบเครื่องยนต์ยังคงให้การขับขี่ที่สนุก นุ่มนวล เร่งแรงได้ดั่งใจ กับขุมกำลังเครื่องยนต์แบบ 4 จังหวะ 4 สูบเรียง 16 วาล์ว DOHC ระบายความร้อนด้วยหม้อนํ้า ขนาดความจุของเครื่องยนต์ 1,298 ซีซี. ห้องเผาไหม้ได้รับการออกแบบใหม่เคลือบเซรามิคเพื่อการกระจายความร้อนที่ดีเยี่ยม เสื้อสูบสั้นลง ลูกสูบอะลูมิเนียมฟอร์จขึ้นรูป น้ำหนักเบา จ่ายนํ้ามันเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ Mikuni FI
ในส่วนของระบบอิเล็กทรอนิกส์ยังเพิ่มเติมระบบใหม่เข้ามาเช่นระบบ YCCS หรือระบบ Yamaha Electronic Control Shift ที่สามารถปรับเกียร์ได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส ระบบ YCC-T (Yamaha Chip Controlled Throttle) ระบบที่ช่วยคำนวณปริมาณเชื้อเพลิงให้มีความสัมพันธ์กับรอบของเครื่องยนต์ ก่อนจะส่งต่อไปยังหัวฉีด ระบบ TCS (Traction Control System) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีสามารถเลือก เปิด/ปิดได้ซึ่งติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานอยู่ แล้วทำงานควบคู่กับระบบ Cruiser Control เป็นตัวควบคุมความเร็วอัตโนมัติ พร้อมโหมดการขับขี่ที่มี Yamaha D-mode (Drive Mode) สามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้อีก 3 โหมด (คือ Touring, Sport และโหมดทั่วไป) อีกทั้งยังเพิ่มระบบ Eco Mode เป็นระบบการขับขี่แบบประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง ระบบ ABS หรือ Anti-Lock Brake System ซึ่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน โดยระบบทั้งหมดจะถูกควบคุมด้วยกล่อง ECU เพื่อช่วยวิเคราะห์ระบบการทำงานต่าง ๆ ได้อย่างแม่นยำ ซึ่งทั้งหมดถูกควบคุมโดย IMU (Inertial Measurement Unit) ที่คอยควบคุมประมวลผลการเคลื่อนไหวของรถ